บางนอน เมืองระนอง ระนอง อดีต ตำบลบางนอน อยู่ในเขตการปกครองของตำบลปากน้ำ แต่ประชากรและหมู่บ้านเพิ่มขึ้นอย่าง ต่อเนื่อง เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2490 ได้จัดตั้งตำบลบางนอนแยกออกจากตำบลปากน้ำ ซึ่งแยกออกมาปกครองตนเอง โดยที่ตำบลบางนอน อยู่ในเขตการปกครองของอำเภอเมือง ต่อมามีประกาศกระทรวงมหาดไทย จัดตั้งเป็นองค์การบริหารส่วนตำบลบางนอนตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม 2538 และเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2554 มีประกาศกระทรวงมหาดไทยจัดตั้งเป็นเทศบาลตำบลบางนอน มีดวงตราประจำตำบลเป็นรูป พระพุทธรูปปางไสยาสน์ (พระนอน) ข้อมูลที่ 1 เมื่อสมัยก่อน ได้มีคนเข้ามาทำเหมืองแร่ในหมู่บ้านบางนอน โดยมีการขุดเหมืองแร่จำนวนหลายเหมือง เพราะในเขตพื้นที่บ้านบางนอนในขณะนั้นมีสายแร่ดีบุกดีอยู่เป็นจำนวนมาก อยู่มาวันหนึ่งได้พบพระพุทธรูปองค์หนึ่งอยู่ในรางเหมืองแร่ เป็นปางพระพุทธไสยาสน์ หรือพระนอน การขุดพบพระนอนในครั้งนี้ ทำให้ประชาชนในพื้นที่คิดว่าเป็นนิมิตหมายอันดี พระองค์นี้คงเป็นสิริมงคลของหมู่บ้าน จึงได้ตั้งชื่อหมู่บ้านว่า “บ้านบางนอน” ตามที่พบพระพุทธไสยาสน์ หรือพระนอนในครั้งนั้น ต่อมาได้มีพระสงฆ์รูปหนึ่งธุดงค์ล่องเรือมาจากสงขลา ขึ้นฝั่งที่ท่าน้ำในตำบลปากน้ำ พระสงฆ์รูปนั้น ชื่อว่า หลวงพ่อด่วน ถามวโร ท่านได้สร้างวัดและหล่อพระนอนองค์ใหญ่แทนพระนอนองค์เล็กที่ขุดพบในครั้งนั้น พระนอนองค์ใหญ่ประดิษฐ์สถานอยู่ที่วัดบางนอนมาถึงปัจจุบัน ข้อมูลที่ 2 คนสมัยก่อนได้มีการสัญจรไป - มา ผ่านตำบลบางนอนต้องอาศัยทางเท้าในการเดินทาง คนส่วนใหญ่จะเดินเท้าจากเมืองระนอง เพื่อไปที่หมู่บ้านเขาทะลุ หรือจากหมู่บ้านเขาทะลุเดินทางมายังเมืองระนองใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 2 วัน เมื่อมาถึงหมู่บ้านบางนอน (บาง หมายถึง คลอง) ก็มืดค่ำพอดีและจำเป็นต้องพักค้างคืนที่หมู่บ้านแห่งนี้ รุ่งเช้าจึงออกเดินทาง ชาวบ้านส่วนใหญ่จึงบอกเล่าและพูดถึงหมู่บ้าน โดยใช้ชื่อว่า “บ้านบางนอน” ข้อมูลที่ 3 สมัยก่อนมีเด็กเลี้ยงควายหลายคนที่เดินทางมาจากหมู่บ้านอื่น จูงความเข้ามากินหญ้าในหมู่บ้านบางนอน ในขณะนั้นหมู่บ้านบางนอนมีทุ่งหญ้าขนาดกว้าง ทำให้เด็กเลี้ยงควายจูงควายเข้ามากินหญ้าบ่อยครั้ง แต่เด็กจูงควายไม่ใช่คนในพื้นที่บ้านบางนอน และครั้นแต่ก่อนหมู่บ้านบางนอนมีชื่อว่า “บ้านลาวนอน” ทำให้เด็กจูงควาย ฟังและพูดผิดเพี้ยน และเล่าผู้อื่นว่า หมู่บ้านที่ตนจูงควายไปกินหญ้าบ่อยๆ มีชื่อว่าบ้านบางนอน ทำให้ผู้อื่นรู้จักและเดินทางเข้ามาในหมู่บ้าน เรียกชื่อหมู่บ้านว่า “บ้านบางนอน”

เชี่ยวเหลียง กะเปอร์ ระนอง
ประวัติตำบล
ประวัติความเป็นมาของชุมชน
เนื่องจากสมัยก่อนยังไม่มีถนนการคมนาคมต้องใช้เรือในการสัญจรไปมาระหว่างหมู่บ้านกับอำเภอโดยใช้คลองกะเปอร์เป็นเส้นทางสัญจรซึ่งมีน้ำลึกมากมีโค้งน้ำไหลเชี่ยวและแรงมากจึงเรียกว่าเชี่ยวหลากและบริเวณนั้นมีต้นเหลียงอยู่เป็นจำนวนมากประกอบกับช่วงหลังน้ำไม่เชี่ยวแล้วชาวบ้านจึงเรียกชื่อใหม่ว่า “เชี่ยวเหลียง” มาจนถึงปัจจุบันนี้
เขตพื้นที่
ทิศเหนือ ติดต่อกับ ตำบลปากทรง อำเภอพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร
ทิศใต้ ติดต่อกับ ตำบลบางหิน อำเภอกะเปอร์ จังหวัดระนอง
ทิศตะวันออก ติดต่อกับ ตำบลบ้านนา อำเภอกะเปอร์ จังหวัดระนอง
ทิศตะวันตก ติดต่อกับ ตำบลกะเปอร์ อำเภอกะเปอร์ จังหวัดระนอง
ลักษณะภูมิประเทศ
สภาพพื้นที่และลักษณะภูมิประเทศของตำบลเชี่ยวเหลียง จะมีทั้งพื้นที่ราบและภูเขาสลับซับซ้อนซึ่งยังคงความอุดมสมบูรณ์เป็นเขตอนุรักษ์สัตว์ป่าของกรมป่าไม้ มีลำคลองหลายสายไหลผ่านตลอดปี
ภูมิอากาศ
อยู่ภายใต้อิทธิพลของมรสุมตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้มีฝนตกชุกเกือบตลอดปี เฉลี่ยประมาณ ๒๐๐ วัน ต่อปี ปีหนึ่งมี ๒ ฤดู คือฤดูร้อนและฤดูฝน
– ฤดูร้อน ระหว่างเดือนกุมพาพันธ์ถึงเดือนพฤษภาคม มีอากาศร้อนมากและนับวันอุณหภูมิที่สูงขึ้นเนื่องจากสภาวะแวดล้อมเปลี่ยนแปลงไป
– ฤดูฝน แบ่งออกเป็น ๒ ช่วง เพราะได้รับอิทธิพลของลมแตกต่างกัน ช่วงที่หนึ่งระหว่างเดือนมิถุนายนถึงเดือนตุลาคม มีฝนชุกมาก เนื่องจากได้รับอิทธิพลของมรสุมตะวันออกเฉียงใต้จากทะเลอันดามัน ช่วงที่สอง ระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมกราคม ได้รับอิทธิพลจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดจากฝั่งอ่าวไทย ทำให้มีฝนเบาบาง อุณหภูมิไม่สูงนัก อากาศเย็นสบาย อุณหภูมิมีความแตกต่างกันไม่มากนักระหว่างเดือนที่มีอุณหภูมิสูงที่สุดกับเดือนที่มีอุณหภูมิต่ำที่สุด มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ ๑๖ – ๓๙.๕ องศาเซลเซียส ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยอยู่ระหว่าง ๓,๔๑๗ – ๕,๒๔๘ มิลลิเมตรต่อปี
โครงสร้างของชุมชน
ด้านการปกครอง
เขตการปกครอง
ตำบลเชี่ยวเหลียง อำเภอกะเปอร์ จังหวัดระนอง มีหมู่บ้าน ทั้งหมด ๗ หมู่บ้าน ได้แก่
▪ หมู่ที่๑ บ้านน้ำแดง
▪ หมู่ที่๒ บ้านย่านยาว
▪ หมู่ที่๓ บ้านเชี่ยวเหลี่ยง
▪ หมู่ที่๔ บ้านขุนรอง
▪ หมู่ที่๕ บ้านนาใน
▪ หมู่ที่๖ บ้านหล่อไหล
▪ หมู่ที่๗ บ้านชลนิมิต
ด้านศาสนา
ประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ
สถานที่สำคัญ
ศาสนสถาน ประกอบด้วย วัด / สำนักสงฆ์ จำนวน ๒ แห่ง ได้แก่
สำนักสงฆ์เวฬุวัน ตั้งอยู่ หมู่ที่ 1 บ้านน้ำแดง
วัดคงคารี ตั้งอยู่ หมู่ที่ 2 บ้านย่าวยาว
สถานศึกษา ประกอบด้วย โรงเรียนประถมศึกษา / ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 1 แห่ง ได้แก่
โรงเรียนบ้านเชี่ยวเหลียง ตั้งอยู่หมู่ที่ ๕ ตำบลเชี่ยวเหลียง
ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ตั้งอยู่หมู่ที่ ๕ บ้านนาใน ตำบลเชี่ยวเหลียง
สาธารณสุข มีหน่วยบริการสาธารณสุข ดังนี้
โรงพยาบาลส่งเสริมส่วนตำบลเชี่ยวเหลียง
แผนที่
อินโฟกราฟิก
โครงการที่ 1
ยกระดับเศรษฐกิจ วิศวกรสังคมตำบลเชี่ยวเหลียง จัดโครงการอบรม 4 สัมมาชีพชาวบ้านแห่เข้าร่วมกว่า 100 คน
เมื่อวันที่ 11-14 ตุลาคม พ.ศ.2564 วิศวกรสังคมตำบลเชี่ยวเหลียงและว่าที่ร้อยตรี อนุชิต พงศ์พรหม(อาจารย์ที่ปรึกษา) ได้เริ่มจัดโครงการอบรม 4 สัมมาชีพ ประกอบด้วย โครงการอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการทำขนมเบเกอรี่ โครงการอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการเพาะก้อนเชื้อเห็ด โครงการอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการเพาะพันธุ์ปลาดุก โครงการอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการทำเครื่องแกง มีชาวบ้านกว่า 100 คนแห่เข้าร่วมโครงการ ผลการประเมินปรากฏว่ามีชาวบ้านกว่าร้อยละ 80 มีระดับความรู้ความเข้าใจในหัวข้อที่อบรมเพิ่มขึ้นกว่า 70 เปอร์เซ็นต์









โครงการที่ 2
ไม่มีที่ไหนไม่มีของดี ปลาดุกร้าสูตรเด็ดและน้ำพริกปลาดุกร้ามีเทคนิคการปรุงมากว่า 70 ปี
เมื่อวันที่ 27-29 ตุลาคม พ.ศ.2564 วิศวกรสังคมตำบลเชี่ยวเหลียงและว่าที่ร้อยตรี อนุชิต พงศ์พรหม(อาจารย์ที่ปรึกษา) จัดโครงการยกระดับผลิตภัณฑ์ปลาดุกร้าและน้ำพริกปลาดุกร้ามีชาวบ้านเข้าร่วมโครงการกว่า 50 คน ซึ่งวิศวกรสังคมตำบลเชี่ยวเหลียงได้คิดค้นนวัตกรรมใหม่ ได้แก่ ตู้ตากปลาดุกร้าพลังงานแสงอาทิตย์ ทำให้สามารถผลิตสินค้าได้เยอะขึ้น ประหยัดเวลามากขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศของจังหวัดระนองมีฝนตกกว่า 8 เดือนต่อปี ทำให้มีผลกระทบต่อกระบวนการผลิตปลาดุกร้า


โครงการที่ 3
ทันโลกการตลาดออนไลน์ เปลี่ยนวิธีการขาย ขายยังไงให้ได้กำไรสุดปัง
จากการลงพื้นที่เก็บข้อมูลและผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลทีมวิศวกรสังคมตำบลเชี่ยวเหลียงและว่าที่ร้อยตรี อนุชิต พงศ์พรหม(อาจารย์ที่ปรึกษา) ได้เห็นถึงปัญหาหรือสาเหตุของการตลาดในตำบล จึงเป็นที่มาของกิจกรรมอบรมการตลาดออนไลน์ที่จัดขึ้นในวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ.2564 เป็นกิจกรรมที่ให้ความรู้ ความสำคัญ และเทคนิคในการขายของผ่านตลาดออนไลน์ในปัจจุบัน เพื่อให้ชาวบ้านและประชากรในตำบลสามารถขายสินค้าได้ผ่านช่องทางออนไลน์



กิจกรรมอื่น ๆ
1.แปลงฟ้าทะลายโจร
2.กิจกรรมเกี่ยวข้าวประจำปีตำบลเชี่ยวเหลียง
-ในตำบลเชี่ยวเหลียงได้มีการจัดกิจกรรมเกี่ยวข้าวประจำปีเพื่ออนุรักษ์วิถีชาวบ้านแบบดั้งเดิมไว้ให้คงอยู่สืบไปและเป็นกิจกรรมที่ทำให้ชาวบ้านมีความรักใครสามัคคีกันช่วยกันเก็บเกี่ยวข้าวที่ทุกๆคนได้ร่วมกันหว่านเมล็ดข้าว




Facebook Page : https://www.facebook.com
E-Book หนังสือประวัติศาสตร์ ลิงค์ : https://online.pubhtml5.com/evrd/azyp/