คลองชะอุ่น พนม สุราษฎร์ เป็นลำคลองที่จุดประทีป หมู่ที่ 6 หมู่ที่ 8 หมู่ที่ 5 หมู่ที่ 7 หมู่ที่ 3 และหมู่ที่ 2 หมู่ที่ 2 หมู่ 13 และหมู่ที่ 1 ของตำบล ต้นน้ำ กับภูเขา กั้นระหว่างอำเภอพนม ซับน้ำจากห้วยน้ำแดง ห้วยบางบ้าน คลองบางทรายนวล คลองบางปริก คลองบางสีที่ คลองศรีส คลองถ้ำลเลย์ คลองโสโครก คลองหัวหัว และคลองหินผุ
พูลเถื่อน พนม สุราษฎร์ธานี
ประวัติความเป็นมา
คำขวัญตำบลพลูเถื่อน
แหล่งดินแดนลางสาดรสดี ป่ามีบัวผุด เขาวงสวยสุด ช้างป่าชุกชุม น้ำตกมากมาย ป่าเขียวชอุ่ม ดินดำน้ำชุ่ม
คนมีน้ำใจ
ประวัติความเป็นมาของชุมชน
ตำบลพลูเถื่อน แต่เดิมชื่อ “ตำบลบางพลูเถื่อน” ซึ่งมีใบพลูเป็นจำนวนมาก ใบพลูชนิดนี้ชื่อว่า”พลูเถื่อน” ลักษณะคล้าย ๆ กับใบพลูกินกับหมาก ซึ่งขึ้นอยู่ริมบาง (ห้วย) ต่อมาได้เพี้ยนมาเป็นตำบลพลูเถื่อน แบ่งอาณาเขตการปกครอง เป็น 5 หมู่บ้าน ดังนี้
หมู่ที่ 1 บ้านเบญจา มีพื้นที่รวมประมาณ 11,406.65 ไร่
หมู่ที่ 2 บ้านบางสามัคคี มีพื้นที่รวมประมาณ 3,158.22 ไร่
หมู่ที่ 3 บ้านบางโหว่ มีพื้นที่รวมประมาณ 21,184.79 ไร่
หมู่ที่ 4 บ้างห้างข้าว มีพื้นที่รวมประมาณ 37,339.23 ไร่
หมู่ที่ 5 บ้างบางลึก มีพื้นที่รวมประมาณ 67,307.11 ไร่
ขนาดและที่ตั้ง
ตำบลพลูเถื่อนตั้งอยู่ถนนสาย 4118 ตำบลพลูเถื่อน อำเภอพนม สุราษฎร์ธานี 84250 มีพื้นที่ประมาณ 224.58 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 140,363 ไร่ อาณาเขตติดต่อกับตำบลต่าง ๆ ดังนี้
ทิศเหนือ ติดต่อกับตำบลคลองศกและตำบลพนม
ทิศใต้ ติดต่อกับตำบลบางเหรียง อำเภอทับปุด จังหวัดพังงา และอำเภอปลายพระยา จังหวัดกระบี่
ทิศตะวันออก ติดต่อกับตำบลพนมและตำบลคลองชะอุ่น
ทิศตะวันตก ติดต่อกับตำบลคลองศกและตำบลพนม
ลักษณะภูมิประเทศ
สภาพตำบลพลูเถื่อน มีพื้นที่เป็นเชิงเขาและเทือกเขาซึ่งส่วนใหญ่เป็นป่าสงวนแห่งชาติ เขตอุทยานแห่งชาติและป่าสหกรณ์นิคม มีลำคลองแหกและคลองพนมเป็นแหล่งน้ำสำคัญ ทั้งนี้มีแม่น้ำสำคัญ
– คลองพนม ตั้งอยู่หมู่ที่ 1
– คลองสองแพรก ตั้งอยู่หมู่ที่ 2
– คลองบางโหว่ ตั้งอยู่หมู่ที่ 3
– คลองวัดธัญญาราม ตั้งอยู่หมู่ที่ 4
– คลองบางลึก (น้ำตกโตนใหญ่) ตั้งอยู่หมู่ที่ 5
ภูมิอากาศ
อากาศเป็นแบบร้อนชื้น ฝนตกชุกตลอดปี มี 3 ฤดู คือ ฤดูฝน 7 เดือน (พฤษภาคม- พฤศจิกายน) ฤดูหนาว 3 เดือน (ธันวาคม – กุมภาพันธ์) ฤดูร้อน 2 เดือน (มีนาคม – เมษายน)
ทรัพยากรธรรมชาติ
– ดิน เป็นดินร่วนปนทราย เหมาะแก่การทำการเกษตร เช่น ยางพารา ปาล์มน้ำมัน สวนผลไม้
– แม่น้ำลำคลอง คลองแหก คลองพนม คลองชะอุ่น
– ป่าไม้ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นเขตป่าสงวนอุทยานแห่งชาติ
การคมนาคม
โดยการใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินสาย 401 สุราษฎร์ธานี – ตะกั่วป่า และถนนทางหลวง 4118
การสื่อสาร
ไปรษณีย์และการขนส่งเอกชนเคอรี่จะเข้ามาส่งจดหมายภายในหมู่บ้านมีวิทยุสื่อสารโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ตขององค์การติดต่อสื่อสารระหว่างสำนักงานและหน่วยงานภายในจังหวัด
การไฟฟ้า
มีไฟฟ้าใช้ทั้ง 5 หมู่บ้านครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 99 เปอร์เซ็นต์
การประปา
ระบบน้ำประปาภูเขา และน้ำคลองตามธรรมชาติ
โครงสร้างของชุมชน
ด้านการปกครอง
1. กำนัน ตำบลพลูเถื่อน นายสุจินต์ หวังดี
– ผู้ช่วยกำนัน นายสามารถ ชื่นพระแสง
– ผู้ช่วยกำนัน นายนพคุณ ผสมทรัพย์
– สารวัตรกำนัน นายพรหมมาศ จินดาภรณ์
– สารวัตรกำนัน นายชูศักดิ์ นาวีวงศ์
– ผรส.กำนัน นายปิยะวัฒน์ กาญจนมุสิทธิ์
2. นายอนันต์ ทับแก้ว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 หมู่บ้านเบญจา
3. นายชลธี ศรีรอดภัย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 หมู่บ้านบางสามัคคี
4. นายสมชาย เรืองอ่อน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 หมู่บ้านบางโหว่
5. นายกมล นบนอบ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 หมู่บ้านบางลึก
ด้านประชากร
หมู่บ้าน ชาย หญิง รวม บ้านรวม
หมู่ที่ 1 423 443 866 309
หมู่ที่ 2 134 117 251 76
หมู่ที่ 3 268 241 509 197
หมู่ที่ 4 354 362 716 235
หมู่ที่ 5 186 159 345 101
รวม 1,365 1,322 2,687 918
ด้านการศึกษา
มีโรงเรียนระดับประถมศึกษา จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนบ้านเบญจาและโรงเรียนวัดธัญญาราม ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จำนวน 1 แห่ง ได้แก่ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กองค์การบริหารส่วนตำบลพลูเถื่อน
ด้านศาสนา
ศาสนาสถาน มี วัด 2 แห่ง ได้แก่ วัดธัญญารามและสำนักสงฆ์บ้านเบญจา การนับถือศาสนาแบ่งเป็น 2 ศาสนา คือ ศาสนาพุทธและศาสนาอิสลาม
โครงสร้างด้านเศรษฐกิจและอาชีพ
พืชเศรษฐกิจส่วนใหญ่ ได้แก่ ยางพารา ปาล์มน้ำมัน ผลไม้ พืชผักสวนครัว รายได้เฉลี่ย ประชากรมีรายได้เฉลี่ยมากกว่า 20,000 บาท/เดือน/ครอบครัว
– เกษตรกรรม ร้อยละ 93.30
– รับจ้าง ร้อยละ 5.68
– รับราชการ ร้อยละ 0.38
ความเชื่อ ประเพณีและพิธีกรรม
ความเชื่อ = ประชาชนในตำบลพลูเถื่อนมีความเชื่อว่าเวลามีเรื่องทุกข์แล้วไปขอพรหลวงพ่อสงฆ์วัดธัญญาราม แล้วจะได้ตามที่ขอทุกอย่างเลยเป็นกลายที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชน สิ่งของที่นำไปแก้บนเวลาขอพรสำหวังแล้วมี 2 สิ่ง คือ สละ กับ ปะทัด
ประเพณี = สารทเดือนสิบ เป็นงานบุญประเพณีของคนภาคใต้ ของประเทศไทย ที่ได้รับอิทธิพลด้านความเชื่อ ซึ่งมาจากทางศาสนาพราหมณ์ โดยมีการผสมผสานกับความเชื่อทางพระพุทธศาสนา ซึ่งเข้ามาในภายหลัง โดยมีจุดมุ่งหมายสำคัญเพื่อเป็นการอุทิศส่วนกุศล ให้แก่ดวงวิญญาณของบรรพชนและญาติที่ล่วงลับ ซึ่งได้รับการปล่อยตัวมาจากนรก ที่ตนต้องจองจำอยู่ เนื่องจากผลกรรมที่ตนได้เคยทำไว้ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ โดยจะเริ่มปล่อยตัวจากนรกในทุกวันแรม 1 ค่ำเดือน 10 เพื่อมายังโลกมนุษย์ โดยมีจุดประสงค์ในการมาขอส่วนบุญจากลูกหลานญาติพี่น้อง ที่ได้เตรียมการอุทิศไว้ให้เป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้ล่วงลับ หลังจากนั้นก็จะกลับไปยังนรก ในวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 ช่วงระยะเวลาในการประกอบพิธีกรรม ของประเพณีสารทเดือนสิบ จะมีขึ้นในวันแรม 1 ค่ำ ถึงแรม 15 ค่ำเดือนสิบของทุกปี แต่สำหรับวันที่ชาวใต้มักจะนิยมทำบุญกันมากคือ วันแรม 13-15 ค่ำ ประเพณีวันสารทเดือนสิบโดยในส่วนใหญ่แล้ว จะตรงกับเดือนกันยายน
พิธีกรรม = พิธีไหว้สวน เป็นพิธีเก่าแก่ของชาวสวนทางภาคใต้ที่คนรุ่นหลังเริ่มจะไม่ค่อยรู้จักกันแล้ว พิธีกรรมนี้ถูกถ่ายทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น และจัดทำให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ ในปีถัดไป เพื่อแสดงถึงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษที่ล่วงลับ เจ้าที่ที่ปกปักรักษาผืนดิน เทพารักษ์ ผีสาง เทวดาที่ดูแลสวน ส่งผลให้พืชสวนออกดอกออกผลให้ชาวสวนมีรายได้หล่อเลี้ยงชีพมาจนทุกวัน โดยพิธีดังกล่าวจะจัดในช่วงเดือน 5 ตามปฏิทินจันทรคติของทุกปี ที่บ้านจะรอให้ลูกหลานกลับมาพร้อมหน้ากันและจัดพิธีไหว้สวนด้วยกัน พิธีไหว้สวน จึงสะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิต ความเชื่อของชาวสวนที่แสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษผู้ล่วงลับ ผู้ปกปักรักษาผืนดิน อีกทั้งสะท้อนความเชื่อเรื่องสิ่งเหนือธรรมชาติที่มีมาอย่างยาวนาน พิธีกรรมดังกล่าวค่อย ๆ เลือนหายไปหากลูกหลานชาวสวนไม่สืบทอด ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเสียดายหากพิธีกรรมเหล่านี้จะกลายเป็นเพียงเรื่องเล่าที่คนรุ่นหลังไม่มีโอกาสได้เห็นและสัมผัสด้วยตัวเอง
ภาพแผนที่
อินโฟกราฟิกสรุปงาน
โครงการที่ 1 (ข่าวสั้น)
เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา วิศวกรสังคม ตำบลพลูเถื่อน เเละที่ปรึกษาโครงการ นายวิทยา สังคะดี ลงพื้นที่จัดกิจกรรม พัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนและส่งเสริมการตลาดด้วยสื่อดิจิทัล (เครื่องเเกงบ้านบางลึก) ภายใต้โครงการโครงการยกระดับเศรษฐกิจสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ 1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย ณ บ้านบางลึก หมู่ที่ 5 ต.พลูเถื่อน อ.พนม จ.สุราษฎร์ธานี ได้รับเกียรติจาก นายกมล นบนอบ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 มากล่าวเปิดงาน โดยมีการสาธิตวิธีการบดเครื่องเเกง มีทั้ง เครื่องเเกงส้ม เครื่องเเกงพริก เเละเครื่องเเกงกะทิ โดยวิศวกรสังคมตำบลพลูเถื่อน ได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยการเปลี่ยน บรรจุภัณฑ์ เเละ ออกเเบบฉลากเครื่องเเกง เพื่อให้สินค้ามีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีการเพิ่งช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านสื่อออนไลน์ เพื่อเพิ่มยอดขาย เป็นการสร้างรายได้เเละอาชีพเสริมให้คนในชุมชนอย่างยั่งยืน
สำหรับผู้เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ได้ผ่านการคัดกรองตามมาตรการ ควบคุมโรคระบาด โควิด19 อย่างเคร่งครัด เเละได้สวมหน้ากากอนมัยตลอดการจัดกิจกรรม เเละต้องขอขอบคุณ อสม.ตำบลพลูเถื่อน ที่มาคอยคัดกรองผู้เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้
